พื้นที่อำเภอพบพระ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม
ปลูกผักปลูกพืชไร่ เรียกว่า เป็นพื้นที่ปลูกผัก ส่งตลาด ทั่วประเทศ โดยเฉพาะสี่มุมเมือง ตลาดไท หล่มสักเพชรบูรณ์ ราชบุรี เพชรบุรี
พบพระเปรียบเสมือน ครัวของโลก เกษตรกรปลูกผักนานาชนิด จากสภาพปัญหา ต้นทุนการผลิตสูง ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยยา เมล็ดพันธุ์ ค่าแรงงาน เริ่มสูงขึ้น แรงงานหายาก และสภาพดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงไป
เกษตรกรบางราย มีอาชีพปลูกผัก ทำไร่ข้าวโพด หันมาทำสวน เช่นสวนอะโวคาโด สวนทุเรียน จนขึ้นชื่อ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว ชมสวนอะโวคาโด ชมสวนทุเรียน น้ำแร่
นักท่องเที่ยวเริ่ม ขึ้นมา เที่ยวอำเภอพบพระ มากขึ้น
ทำให้ เกษตรกรหลายท่าน เล็งเห็น อาชีพ และธุระกิจ เล็กๆของการท่องเที่ยว ที่เกี่ยวโยงกับ วิถีชีวิต การปลูกผักปลูกพืชไร่และไม้ดอกของพี่น้องชาวอำเภอพบพระ จังหวัดตาก
จากการทำไร่ ล้มเหลว ลองผิดลองถูก ขาดทุน
หันมา ขุดสระเลี้ยงปลา ปลูกข้าวไว้กิน เลี้ยงวัว เพื่อ มูลวัว หรือขี้วัว ผลิต มาทำปุ๋ย
อยู่แบบพอเพียง ช่วง รอสถานการณ์ ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ และปัญหาการขาดแคลนเรื่อง แรงงาน
เกษตรกร บ้านป่าคาใหม่ หมู่ที่ 6 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
หันมาปลูกดอกไม้ ทำเป็นที่แหล่งท่องเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยว ช่วงปลายฝนต้นหนาว ฤดูหนาวที่จะมาถึง
มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ50ไร่
ทำนาปลูกข้าว5ไร่พรุ้มขุดสระเลี้ยงปลา ปลูกดอกไม้5ไร่ ที่ทำลานกางเต้น และยังกันที่ไว้เลี้ยงวัว10ตัวเพื่อนำขึ้วัว ทำปุ๋ยหมัก
อายุ33ปี
อยู่บ้านเลขที่96หมู่6 ต.คีรีราษฎร์
อ.พบพระ จ.ตาก
กล่าวว่าตนเอง และสามี มีอาชีพทำไร่ปลูกผัก ปลุกมาหลายอย่างแล้ว ว่าจะเป็นพริก กะหล่ำปลีข้าวโพด มันฝรั่ง ผักกาดขาวปลีลุ้ย ปลูกดอกดาวเรือง ขาย
ประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ประกอบกับ ราคาพืชผลทางการเกษตร ตกต่ำ ต้นทุนการผลิตปุ๋ยยาราคาสูงขึ้น ตอนนี้ถึงหยุด ในการปลูกผักพืชไร่ไว้ก่อน
หันมา ทำท่องเที่ยว โดยปลูกดอกไม้ ไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเก็บค่าบริการ
พร้อมทั้ง ทำลานกางเต็นท์ ไว้ให้กับนักท่องเที่ยว เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
บ้านป่าใหม่ ช่วงฤดูหนาว อากาศจะเย็นสบาย อยู่บนดอยสูง ช่วงเวลากลางคืน เดือนหงาย มองเห็นท้องฟ้า ดาวระยิบระยับ
ไร่หนึ่งตะวันพันดาว
พื้นที่ทั้งหมด ประมาณ50ไร่
ทำนาปลูกข้าว5ไร่พรุ้มขุดสระเลี้ยงปลา ปลูกดอกไม้5ไร่ ที่ทำลานกางเต้น และยังกันที่ไว้สำหรับเลี้ยงวัว10ตัวเพื่อนำขึ้วัว ทำปุ๋ยหมัก
ไร่หนึ่งตะวันพันดาว
มีดอกผักเสี้ยนฝรั่ง
ดอกคอสมอส ดอกทานตะวัน ฯลฯ
ปลูกข้าว5ไร่ สระเลี้ยงปลา2สระ
และ ยังมีลานกางเต็นท์ไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว ที่จะมาพักแรม
โดย คิดราคาค่าบริการ500บาท/เต้น ถ้านักท่องเที่ยวนำเต็นท์มาเอง คิดค่าบริการในการตั้งเต็นท์ ในราคา 250 บาทต่อ1เต็นท์
และ ในส่วนของนักท่องเที่ยว ที่จะเข้าชม ในสวน ถ่ายรูปเก็บค่าบริการ ผู้ใหญ่50บาท เด็กโต20บาท ในส่วนของเด็กที่ต่ำกว่า100 เซนติเมตร และ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้า ชมฟรี
เส้นทางที่จะเข้า มาชมสวนไร่หนึ่งตะวันพันดาว เข้าได้ 2 เส้นทาง
ถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง
เส้นทางแยก(กม.42)ทาง เข้า ผ่านบ้านชิบาโบ ผ่านบ้านใหม่ดินแดง ผ่านบ้านป่าหวาย ทางเข้าสวนจะอยู่ ด้านซ้ายมือ ก่อนถึง หมู่บ้าน ปากกาใหม่ ประมาณ 500 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร
และอีก 1 เส้นทาง เข้าตรงกม 48 บ้านร่มเกล้าสหมิตร
(บ้าน48) ผ่านบ้านป่าคาเก่า ผ่านบ้านห้วยไผ่ ผ่านทางเข้าหมู่บ้านป่าคาใหม่ ผ่านโรงเรียนบ้านป่าคาใหม่ไปประมาณ 500 เมตร ถึงทางเข้าไร่ ด้านขวามือ เข้าไปอีก 1 กม. ถึงไร่หนึ่งตะวันพันดาว
โดยจะเปิดให้กับนักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป โดยมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19
นักท่องเที่ยว ต้องสวมใส่แมส ทางไร่ หนึ่งตะวันพันดาว จำเป็นต้องวัดอุณหภูมิของร่างกาย ของนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะเข้าชม ไร่หนึ่งตะวันพันดาว
นางสาวเย็นจิต หรือน้องหมวย กล่าว..
อายุ65ปี
อยู่บ้านเลขที่96หมู่6 ต.คีรีราษฎร์
อ.พบพระ จ.ตาก
ตนเองมาอยู่ที่บ้านป่าคาใหม่39ปี มีอาชีพปลูกข้าวโพด ปลูกผัก ปลูกข้าวไว้กิน ทำอะไรก็ขาดทุน
ตนเองเป็นแม่ ยกที่ให้ลูกปลูกสวนดอกไม้
ส่งเสริมให้ลูกๆ ทำเป็น สถานที่ท่องเที่ยว
ชื่อไร่หนึ่งตะวันพันดาว
นับใด้ว่าเกษตรกรในพื้นที่อำเภอพบพระ ปรับตัว กับสภาพ การเปลี่ยนแปลง ตามสถานการณ์ กับการปลูกพืชเดิม ขาดทุน ราคาตกต่ำ ต้นทุนการผลิตสูง ลองหันมาทำ การท่องเที่ยว ปลูกดอกไม้ เพื่อให้นักท่องเที่ยว มาเที่ยวถ่ายรูป เพื่อเก็บค่าบริการ ในพื้นที่5ไร่
พร้อมทั้ง ปลูกข้าวไว้กิน ขุดสระเลี้ยงปลา เพื่อเป็นอาหาร และยัง ปรับปรุงสถานที่ให้สวยงาม ให้นักท่องเที่ยว ได้เข้าชม พร้อมทั้ง ทำลานกางเต็นท์ รองรับนักท่องเที่ยว ในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้
ติตต่อสอบถาม
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่น้องหมวย หรือ นางสาวเย็นจิต ชมพูคีรี
อายุ33ปี
96หมู่6 ต.คีรีราษฎร์
อ.พบพระ จ.ตาก
โทร.0857284533 หรือในเพจ ไร่หนึ่งตะวันพันดาว
ชวลิต วิกุลชัยกิจ/รายงาน
