เมื่อ 25 ก.ค.67 จากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ มีฝนตกหนักมาก โดยเฉพาะพื้นที่ ชายแดนด้าน อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดแม่น้ำเมย มีฝนตกต่อเนื่องมากว่า 3วันแล้ว ส่งผลให้ปริมาณน้ำสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
นายสมศักดิ์ ก่อกิจไพบูลย์
ผู้ใหญ่บ้านหมื่นฤาชัย
หมู่ที่ 5 ตำบลพบพระ
อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
กล่าวว่า เมื่อคืนฝนตกทั้งคืน
และตกมาหลายวันแล้ว ทำให้แม่น้ำเมยไหลล้นตลิ่ง
ท่วมบ้านเรือนราษฎรจำนวน
14 ครัวเรือน ผู้ได้ผลกระทบประมาณ 50 ราย
โดยชาวบ้านข้าราชการหมู่บ้านได้อพยพราษฎรที่ถูกน้ำท่วมไปอยู่ที่สูงเรียบร้อยแล้ว
ส่วนพืชไร่ที่ได้รับความเสียหายอยู่ระหว่างการเข้าไปตรวจสอบ
นายธันย์ปวัฒน์ ภูริวัฒนเมธา นายอำเภอพบพระ
กล่าวว่าวันนี้ตนเองและฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น ลงพื้นที่ สำรวจน้ำเมบล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือน บ้านหมื่นฤาชัย หมู่ที่ 5 ตำบลพบพระ ท่วมบ้านเรือน 14 ครัวเรือน บ้านมอเกอร์ไทยหมู่ที่ 1 ตำบลวาเล่ย์น้ำเมยไหลเข้าบ้าน 3 ครัวเรือน
และยังใช่เดินทางพร้อมกับนายสำเนาว์ นรงค์มี
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่องแคบ
ตรวจสอบพื้นที่แม่น้ำเมยที่บ้านห้วยแล้ง หมู่ที่ 10 ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
เบื้องต้น ได้อพยพชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมและสิ่งของไว้ที่สูง
สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านที่อยู่ติดแม่น้ำเมย ให้เฝ้าระวัง และสั่งการให้ผู้นำ ชาวบ้านที่ปลูกบ้านอยู่ใกล้แหล่งน้ำทุกหมู่บ้าน ให้เฝ้าระวัง และสำรวจพืชไร่พืชสวนที่ได้รับผลกระทบ จากฝนตกติดต่อกัน 3 วัน
ทั้งนี้ นายอำเภอพบพระ ได้รายงาน สถานการณ์เบื้องต้นไปยัง นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมประสานไปยัง อำเภอข้างเคียงต่างๆ ที่อยู่ลุ่มน้ำเมย ที่ไหลขึ้นเหนือ ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์มวลน้ำที่จะไหล ผ่านพื้นที่ต่างๆ รายการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ในภาวะฉุกเฉินดังกล่าว
ชวลิต วิกุลชัยกิจ/รายงาน