เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.พบพระ
ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ดังนี้
นายเซ้ง สัญชาติไทย ผู้ต้องหาที่ 1 จับกุมในข้อหา “ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆเพื่อให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม”
บุคคลต่างด้าวสัญชาติ
เมียนมาร์ จำนวน 14 ราย
เป็นชาย 12 ราย เป็นหญิง 2 ราย
ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ของกลาง รถกระบะ ยี่ห้อ Nissan รุ่น นาวาล่า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กทม.
พฤติการณ์ วันนี้ 16 ม.ค.2568 เจ้าหน้าชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ(ขอปิดนาม) ว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อจะเข้ามารับจ้างทำงานในพื้นที่ชั้นในของไทย โดยใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะนำพา บรรทุกแรงงานต่างด้าวดังกล่าว มาจาก แนวตะเข็บชายแดน ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันวางแผนจับกุมบนถนนสายแม่สอด – อุ้มผาง ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 54-55 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แบ่งกำลังออกเป็นสองส่วน จุดซุ่มและจุดสกัดเมื่อถึงเวลาประมาณ 22.20 น. ได้มีรถยนต์กระบะบรรทุกแบบคอกต่ำต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบต่างด้าว ทั้งหมดจำนวน 14 ราย เป็นชาย 12 ราย เป็นหญิง 2รายตรวจสอบแล้วไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด และพบนายเซ้ง (คนขับรถคันดังกล่าว) ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ไปรับชาวเมียนมาร์ จากบริเวณไร่ข้าวโพด ริมถนนสายพบพระ- ช่องแคบ บ้านห้วยน้ำนัก หมู่ที่ 4 ต.พบพระ อ.พบพระ เพื่อไปส่งบริเวณตลาดชุมชนบ้านร่มเกล้าสหมิตร กิโลเมตรที่ 60 บ้านร่มเกล้าสหมิตร ม.5 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จว.ตาก โดยค่าจ้างจะได้รับเมื่อไปส่งชาวเมียร์มาร์เรียบร้อยแล้วสอบถามกลุ่มชาวเมียนมาร์ กลุ่มชาวเมียนมาร์ ให้การว่าได้เดินทางเข้ามายังฝั่งประเทศไทยเพื่อมาหางานในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทยโดยได้รับติดต่อจากนายหน้าชาวเมียนมาผ่านนายหน้าคนไทย
โดยถ้าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวเดินทางไปถึงจุดหมายจะต้องจ่ายค่านายหน้าทั้งหมด ประมาณ 10,000 – 12,000 บาท (โดยนายจ้างจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน และต้องทำงานใช้และหักค่าใช้จ่ายจากแรงงานทีหลัง)
