“วาเล่ย์พร้อม”รร.บ้านวาเล่ย์
เข้มงวดเข้า ออก ป้องกันการแพร่ระบาด ไวรัสโควิด- 19 ประยุกต์ใช้โปรแกรม Google form “วาเล่ย์พร้อม” สแกนด้วย คิวอาร์โค๊ด(QR Code )เช็คชื่อนักเรียน สแกนผ่านสมาร์ทโฟน
พร้อม วัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจล ก่อนเข้าโรงเรียน

ข่าวการศึกษา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่ บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ที่3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
หลังจากบ้านวาเลย์พบ ผู้ป่วยติดเชื้อ covid 19 จำนวน 2 ราย ทำให้ปิดหมู่บ้าน
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ตามคำสั่งจังหวัดตาก
การปิดหมู่บ้าน วาเล่ย์เหนือ เป็นการชั่วคราว ตามคำสั่งจังหวัดตาก
ห้ามบุคคลเข้าออก ในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านวาเล่ย์เหนือ เป็นเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ถึง 4 มิถุนายน 2556 44 เวลา 24.00 น
ทำให้โรงเรียน บ้านวาเลย์
ต้องเลื่อนการเปิดเรียนตามปกติ เดิมต้องเปิดในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ทางโรงเรียนจำเป็นต้อง ให้เด็กเรียน อยู่ที่บ้าน และ พึ่งเปิดเรียนตามปกติเมื่อวันจันที่22มิ.ย2564 และในวันนี้ ใช้มาตรการเข้มข้น ในการตรวจคัดกรอง นักเรียนที่จะเข้ามาในโรงเรียน
ทางโรงเรียน มีข้อห้าม ในช่วงนี้ จะไม่ให้ผู้ปกครอง เข้ามาภายในโรงเรียนเด็ดขาด เพื่อป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19
นอกจาก ทางโรงเรียน ได้ใช้วิธีคัดกรอง วัดอุณหภูมิร่างกาย ใช้เจลล้างมือ และยังใช้ เทคโนโลยี เข้ามาช่วย โดยทางโรงเรียนใช้ชื่อว่า ว่าเล่ย์พร้อม
นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์
กล่าวว่า
โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ 273 หมู่3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ปีการศึกษา 2564 มีข้าราชการครูและบุคลากร จำนวน 18 คน มีนักเรียนจำนวน 278 คน จัดการเรียนการสอนชั้นอนุบาล2-มัธยมศึกษาปีที่3 จัดการเรียน 3 รูปแบบ 1. On-site 2.On-line 3.On-hand
มาตราการการเปิดเรียน
มีการประชุมกับกรรมการสถานศึกษา ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.หมู่2 บ้านวาเล่ย์ใต้
หมู่3 บ้านวาเล่ย์เหนือ ประเมินความพร้อมในการเปิดเรียน ทางโรงเรียนเปิดเรียนเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 โดยเรียนแบบ On-line และ On-hand ในวันที่ 14-18 มิ.ย.64 และเริ่มเรียนแบบ On-site มาเรียนที่โรงเรียนในวันที่ 21 มิ.ย.64 เป็นวันแรก โดยใช้มาตรการ 6 ข้อ+1
1.วัดไข้ 2.ใส่แมส 3.ล้างมือ 4.เว้นระยะห่าง 5.ทำความสะอาด 6.ลดความแออัด 7.ถ้ามาจากพื้นที่เสี่ยงให้กักตัว14วัน
โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ มีจุดคัดกรองนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน โดยมีครูเวรจุดคัดกรอง อสม.และผู้นำหมู่บ้านมาช่วยในการคัดกรอง ในเวลา 07.00 น.ทุกวัน
1.ตรวจแมส
2.วัดไข้
ล้างมือด้วยเจลแอลกฮอล์
4.ปั้มสัญลักษณ์ที่มือผ่านจุดคัดกรอง
5.สแกนป้ายชื่อนักเรียน “วาเล่ย์พร้อม” ทาง QR-CODE เพื่อเช็คชื่อเด็ก
นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์
กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางโรงเรียน ใช้เทคโนโลยี ประยุกต์
การใช้ วาเล่ย์พร้อม
เทคโนโลยี ดังกล่าว ทางโรงเรียน ได้แนวคิด แรงบันดาลใจ จาก โครงการรัฐบาล
ใช้ Application แอพหมอพร้อม เลยมาประยุกต์ ทำเป็น QR Code สแกน การเข้าออกของเด็กนักเรียน
ทางโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ได้ประยุกต์ใช้โปรแกรม Google form ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของบริษัท Google ที่อนุญาตให้นำไปใช้ได้ฟรี โดยนำมาออกแบบและสร้างเป็นฟอร์มสำหรับบันทึกเวลาเข้า ออก โรงเรียนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ แล้วนำข้อมูลทั้งหมดบันทึกในรูปแบบของ QR CODE จากนั้นนำ QR CODE ที่ได้ไปใส่ลงในบัตรเช็คชื่อนักเรียน (วาเล่ย์พร้อม) ในวันมาโรงเรียนทุกวัน นักเรียนจะนำบัตรเช็คชื่อนักเรียน (วาเล่ย์พร้อม) สแกนผ่านสมาร์ทโฟนของคุณครูบริเวณจุดคัดกรองในเวลาเช้าก่อนเข้าโรงเรียน และเวลาหลังเลิกเรียนก่อนกลับบ้าน ทางโรงเรียนจะได้รับข้อมูลที่จำเป็นที่ได้จากการสแกนด้วย QR CODE คือ
1.ชื่อ-สกุล นักเรียน หรือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
2.เลขที่
3.ระดับชั้น
4.วัน/เดือน/ปี/เวลา ที่เข้า ออกโรงเรียน
จึงทำให้ทางโรงเรียนบ้านวาเล่ย์สามารถตรวจสอบรายการบันทึกข้อมูลย้อนหลังของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนทุกคน สามารถติดตาม ตรวจสอบ Timeline ในกรณีที่จำเป็นได้อย่างถูกต้อง โดยสามารถดูรายการบันทึกข้อมูลย้อนหลังดังกล่าวผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ได้ทุกที่ ทุกเวลา
นายชัชวาล ศรีสุวรรณ
ผู้ใหญ่บ้านวาเล่ย์เหนือ
ตนเองมั่นใจว่าทางโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ covid 19
โดยเด็กนักเรียน จะเข้า มาในโรงเรียนจะต้องสวมใส่แมส
ชาวบ้านหมู่บ้านทุกคนต้องใส่แมส และตรวจวัดอุณหภูมิร่างการ ทิ้งระยะห่างทางสังคม และช่วยกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ covid 19
โดยทางหมู่บ้าน ยังตรวจคนเข้าออกภายในหมู่บ้านเหมือนเดิม ฝากถึงพี่น้องประชาชนที่เข้ามาในพื้นที่บ้านวาเล่ย์เหนือจะต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 โดยสวมใส่แมสทุกครั้ง
และ ผู้ที่มาจากต่างจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงจะต้อง ปฏิบัติตามมาตรการ กักตัว 14 วัน
นางสาวศศิธร สุวรรณศรี
อายุ47ปี
อยู่บ้านเลขที่ 212 บ้านวาเลย์เหนือหมู่ที่ 3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก กล่าวว่า
สมาชิกอสม. ในหมู่บ้าน ได้มาร่วม ในการคัดกรอง นักเรียนโดยมี อสม วันละ 2 คน
มาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับคุณครู และฝ่ายปกครอง มาเป็นประจำทุกวันตนเองเห็นการปฏิบัติตามมาตรการของการป้องกันการแพร่ระบาดของ covid 19 ของโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ ตนเองยิ่งมั่นใจ ในมาตรการดังกล่าว
ในส่วนของชุมชนในหมู่บ้าน ได้มีการคัดกรองคนเข้าออกในหมู่บ้าน เหมือนเดิม และเป็นประจำทุกวัน
โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ เป็นโรงเรียน ที่อยู่แนวชายแดนอำเภอพบพระ
ถึงแม้ จะเป็นหมู่บ้าน ที่เคยพบ ผู้ป่วย ติดเชื้อโควิค 19 ดังกล่าว จนนำไปสู่การปิดหมู่บ้าน 14 วัน
แต่ เป็นการร่วมไม้ร่วมมือ กันระหว่าง ผู้นำชุมชน พี่น้องอสม บุคลากรทางการศึกษา ครูและนักเรียน ตลอดจน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของโรงเรียน บ้านวาเล่ย์
และ ผู้ปกครอง พี่น้องประชาชน ให้การร่วมมือเป็นอย่างดี และทางโรงเรียน ใช้เทคโนโลยี สมาร์ทโฟน สแกนคิวอาร์โค้ด การเข้าออกของนักเรียน เพื่อ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19
ชวลิต วิกุลชัยกิจ/รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *