วันที่ 6 กรกฏาคม 2565 ณ ที่ทำการ องค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนา ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
นานสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ มอบหมายให้ นายสมศักดิ์ พรมมา ปลัดอาวุโส อำเภอพบพระ พร้อมด้วยนายมณฑล สว่างนภาลัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนา นายวีระชัย ก้องพนาไพรสนฑ์ กำนันตำบลรวมไทยพัฒนา นายเฟื่องศักดิ์ เฟื่องวัฒนาพาณิช ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนา พร้อมส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงการจัดงาน เทศกาลอะโวคาโด้ และสินค้าพื้นเมือง สร้างงาน สร้างรายได้ที่ยั่งยืน ประจำปี 2565 ซึ่งจะจัดขึ้น ที่องค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ในระหว่างวันที่ 29-31 กรกฏาคม 2565 นี้
ซึ่งก่อนการแถลงข่าวได้มีการแสดงของนักเรียนเป็นการร่ายรำของชนเผ่าม้งในพื้นที่อำเภอพบพระซึ่งจะมีการแสดงในช่วงวันเปิดงงาน จากนั้นนายสมศักดิ์ พรมมา ปลัดอาวุโสอำเภอพบพระ ได้กล่าวเปิดงานว่าอำเภอพบพระร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนาได้ร่วมกันจัดงานเทศกาลอะโวคาโด้ ของดีเมืองพบพระ ประจำปี 2565 โดยปีนี้มีเป้าหมายต้องการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและเปิดจำหน่ายผลไม้อะโวคาซึ่งปลูกในพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งออกผลผลิตจำหน่ายไปทั่วประเทศไทยและอำเภอพบพระต้องการเชิญชวนคนไทยให้มารับประทานผลไม้ที่ปลูกแบบปลอดสารพิษในประเทศไทยซึ่งจะสร้างรายได้หมุนเวียนให้เกษตรกรชาวไทยภูเขาในพื้นที่อำเภอพบพระหลังหลายปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดทำให้ผลไม้ไทยราคาตกต่ำ
นายธนากร โปทิกำชัย
ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดตาก (เกษตรที่สูง)
กล่าวว่า อะโวคาโดเป็นสินค้าสำคัญของจังหวัดตาก และเป็นพืช ที่นิยม ในขณะนี้ คิดถึงอะโวคาโดคิดถึงอำเภอพบพระ
พื้นที่จังหวัดตาก มีสวนอะโวคาโด ประมาณ5,000ไร่ และให้ผลผลิตแล้ว ประมาณ 3,000ไร่
และวันนี้ สำนักงานเกษตรที่สูง ยังใด้
เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
เพื่อร่วมกำหนดการจัดงาน กำหนดราคาจำหน่ายผลผลิต แจ้งมาตรการป้องกันควบคุมโรค การดูแลรักษาความเรียบร้อยบริเวณงาน การนำสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่าย
การจัดนิทรรศการ และการแถลงข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานเทศกาลวันอะโวคาโด
ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
ปัจจุบันพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีเกษตรกรผู้ปลูกอะโวคาโดจำนวนมากกว่า 200ราย และมีพื้นที่ปลูก
แบบแปลงเดี่ยวและแปลงผสมผสานมากกว่า 1,000ไร่
สร้างรายได้ให้กับชุมชนการจัดงาน อะโวคาโด ครั้งนี้ เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างพื้นที่ การตลาดให้กับเกษตรกรระหว่างชาวสวนพ่อค้าและนักท่องเที่ยวมาพบกัน
อีกทั้งยังสร้างพื้นที่การเรียนรู้แลกเปลี่ยนเรื่องอะโวคาโด
ชวลิต วิกุลชัยกิจ/รายงาน