จังหวัดตาก ประชุมให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าว

ข่าวท้องถิ่น

วันนี้(7 ต.ค.67) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมที่ทำการปกครองจังหวัดตาก (ชั้น 3) ศาลากลางจังหวัดตาก นายบุญช่วย หอมยามเย็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานการประชุมหารือการบริหารจัดการศัตรูพืช เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โดยมี นางรัตดา คงสีไพร เกษตรจังหวัดตาก ,เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตาก ,ผู้แทน ปภ.ตาก ,ผู้แทนท้องถิ่น จ.ตาก ,ประชาสัมพันธ์ จ.ตาก ,เกษตรอำเภอ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

สำหรับสถานการณ์การระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ในนาข้าว ในพื้นที่ของ จ.ตาก จากการสุ่มสำรวจ พบการแพร่ระบาดที่ทำให้นาข้าวได้รับความเสียหาย ต้นข้าวมีอาการใบเหลือง เหี่ยวแล้วแห้งเป็นสีน้ำตาลแก่คล้ายน้ำร้อนลวก โดยบางแปลงพบการระบาดและแสดงอาการทั่วทั้งแปลง ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2567 พบมีการระบาดมากที่สุดใน อ.ท่าสองยาง มีพื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 13,491 ไร่ รองลงมาพบที่ อ.แม่ระมาด ,อ.อุ้มผาง ,อ.พบพระ และ อ.แม่สอด รวม 5 อำเภอ มีพื้นที่คาดว่าจะเสียหายจำนวน 22,729 ไร่

โดย จ.ตาก มีมาตรการการป้องกันกำจัด ควบคุมการระบาด และแนวทางการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย การประชาสัมพันธ์ ติดตาม และตรวจสอบพื้นที่การระบาด ,สำรวจแปลงที่พบการระบาด และประเมินสถานการณ์ แนะนำการป้องกันกำจัด ด้วยการปล่อยน้ำออกจากแปลง เพื่อลดความชื้นในนาข้าว งดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน หรือฮอร์โมนบำรุงข้าว และแนะนำการใช้สารเคมีที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ รวมทั้งประสานศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกำแพงเพชร ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความรุนแรงของการระบาด

ส่วนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวนั้น จ.ตาก จะเร่งประชุมเพื่อประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ในวันที่ 11 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอทั้ง 5 อำเภอ จะออกสำรวจความเสียหายพื้นที่นาข้าว ที่ได้รับความเสียหายจริง เพื่อนำข้อมูลเข้าสู่การประชุมของคณะกรรมการ ก.ช.ภ.อำเภอ และ ก.ช.ภ.จังหวัด ก่อนที่จะ เสนอเอกสารขอรับความช่วยเหลือไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 และคาดว่า จะได้รับการพิจารณาให้ความช่วยเหลือจากเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ประมาณเดือนมีนาคม 2568 ตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกข้าว ที่เสียหายจริง ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตราไร่ละ 1,340 บาท ต่อไป…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *