เอบิว ปลูกใด้ ให้ผลผลิตดี
ราคาสูง ชิมถึงสวน กก.300บาท ผลไม้เศรษฐกิจทางเลือกใหม่ของ เกษตรกรอำเภอพบพระ

ข่าวเกษตร
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่
ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ
จังหวัดตาก
เอบิว
กำลังเป็นที่ฮือฮา ผลไม้แปลก
ใหม่ ปลูกในพื้นที่อำเภอพบพระ
ได้ผลผลิตดี รสชาติหวานอร่อยชื่นใจ

เอบิวเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยแคลเซียมและวิตามินเอ ผลกลมขนาดใหญ่ เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผิวเรียบ เมื่อผ่าผลชิมเนื้อใน นอกจากมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แล้ว เนื้อผลยังใสและนุ่มคล้ายเยลลี่ รสชาติหวานอร่อยชื่นใจ คล้ายสตาร์แอปเปิ้ล (Star Apple) ที่เมื่อสุกผลเปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่เอบิวมีรสชาติหวานกว่าและมีน้ำยางน้อยกว่า

คุณลุงประดิษฐ์ ภูแช่มศรี
อายุ66ปี
อยุ่(บ้าน18) ทรัพย์อนันต์ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก
เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า
เดิมทีตนเองปลูกผัก
ปลูกข้าวโพด ปลูกพริก
ราคาไม่ค่อยดี ที่หันมาปลูกผลไม้ผสมผสานมีทุกอย่าง
ในเนื้อที่ 9 ไร่ และอีกแปลง 30 ไร่ มีปลูกทุเรียน อะโวคาโด ขนุน มะม่วง ผลไม้หลากหลาย
และล่าสุด ตนเองได้ปลูก เอบิว เริ่มให้ผลผลิตแล้ว 200 ต้น อีก 350ต้นยังไม่ให้ผลผลิต รวมๆแล้วปีหน้าให้ผลผลิต จำนวน500ต้น

ตนเอง ปลูก เอบิว เริ่มแรก200ต้น
ซื้อต้นที่เพาะเมล็ดในราคาต้นละ 80 บาท
จากเพาะเม็ดและขยายเพิ่มเป็น 550ต้น ถ้าซิ้อจากกิ่งตอนราคากิ่งละ1,000-1,200แล้วแต่พันธุ์ลูกใหญ่ ความหวาน ที่สวนเลยลดต้นทุนเอาจากต้นเพาะเม็ดมาลง
ลดต้นทุนการผลิต ต้นเพาะประมาณต้นละ 80 บาท
แล้วค่อยคัดสายพันธุ์
ปลูกใช้ระยะเวลาปีกว่าๆก็ให้ผลผลิตแล้ว
ระยะเวลาติดดอกออกผลประมาณ2เดือน คือให้ผลไวดี
ปีนี้ให้ผลผลิตครั้งแรกปีแรก
หลังจากปลูกมาปีกว่าๆเกือบ 2 ปีมีนักท่องเที่ยวมารับซื้อถึงสวนกิโลกรัมละ 300 บาท

การดูแลไม่ยุ่งยากใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ลดน้ำ สม่ำเสมอ
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ลุงดิษฐ์
เบอร์โทร 081816023 หรือ
0812839641

นายธันย์ปวัฒน์ภูริวัฒนเมธา นายอำเภอพบพระ
กล่าวว่า.วันนี้ได้เดินทางมากับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่องแคบ สาธารณสุขอำเภอพบพระ ทีมงานผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลช่องแคบ มาชมสวน ผลไม้ลุงดิษฐ์ สวนเอบิว หรืออะบิว สวนผลไม้ของลุงดิษฐ์ แห่งนี้เป็นสวนการปลูกพืชแบบผสมผสาน ทุเรียน อะโวคาโด
รวมถึงผลไม้ เอบิว ถือว่าเป็นครัวเรือนต้นแบบ ของพี่น้องประชาชน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงเกษตร ส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง ส่งเสริมให้ปลูกผักไว้รับประทานเอง สร้างความมั่นคงทางอาหาร
เป็นสวนแบบอย่างและตัวอย่างให้กับชุมชน มีทั้งผลไม้พืชผักสวนครัว
ในอนาคตที่แห่งนี้เป็นแหล่งศึกษา แหล่งท่องเที่ยวของชุมชน

นายสำเนาว์ ณรงค์มี
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่องแคบ
กล่าวว่า ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านมาเที่ยวตำบลช่องแคบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกพาเจริญ สวนทุเรียนสวนอะโวคาโด
และที่พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ เอบิว นักท่องเที่ยวติดต่อประสานงานผ่านองค์การบริหารส่วนตำบลช่องแคบใด้ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลช่องแคบยินดี จะประสานสวนลุงดิษฐ์ เพื่อเข้าชมผลไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ เอบิว

ทำความรู้จัก เอบิว หรือ อะบิว
เอบิวหรือ Yellow Star Apple เป็นไม้ผลเขตร้อน มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ ต้นสูง 8-10 เมตร ออกดอกตามกิ่งก้านและลำต้น สามารถปลูกและให้ผลผลิตได้ดีในเมืองไทย โดยติดผลได้เมื่อต้นมีอายุ 2 ปีขึ้นไป และออกดอกติดผลหลายรุ่นใน 1 ปี

เอบิวเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยแคลเซียมและวิตามินเอ ผลกลมขนาดใหญ่ เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผิวเรียบ เมื่อผ่าผลชิมเนื้อใน นอกจากมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แล้ว เนื้อผลยังใสและนุ่มคล้ายเยลลี่ รสชาติหวานอร่อยชื่นใจ คล้ายสตาร์แอปเปิ้ล (Star Apple) ที่เมื่อสุกผลเปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่เอบิวมีรสชาติหวานกว่าและมีน้ำยางน้อยกว่า

ในเมืองไทยพบปลูกเอบิวกัน 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์จากไต้หวันและสายพันธุ์จากเวียดนาม

ในเมืองไทยพบปลูกเอบิวกัน 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์จากไต้หวันและสายพันธุ์จากเวียดนาม

เอบิวสายพันธุ์จากไต้หวัน มีทั้งแบบผลกลมและผลกลมก้นแหลม ผลขนาดกลางถึงใหญ่ น้ำหนัก 300-600 กรัมต่อผล เนื้อผลใสปนขาวขุ่น แน่นไม่เละ รสหวาน มีกลิ่นหอม และมีน้ำยางน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสุกแก่และระยะเก็บเกี่ยวของแต่ละผลด้วย

“ส่วนเอบิวสายพันธุ์จากเวียดนาม ทรงผลยาวและก้นแหลม ขนาดไม่ใหญ่มาก รสชาติหวานน้อยกว่าสายพันธุ์จากไต้หวัน เนื้อผลไม่มีกลิ่นหอม (กลิ่นคาวนิด ๆ) และมีน้ำยางมากคล้ายสตาร์แอปเปิ้ล สำหรับสวน BerryCU เลือกปลูกสายพันธุ์จากไต้หวัน เนื่องจากข้อดีดังกล่าว

“ส่วนเอบิวสายพันธุ์จากเวียดนาม ทรงผลยาวและก้นแหลม ขนาดไม่ใหญ่มาก รสชาติหวานน้อยกว่าสายพันธุ์จากไต้หวัน เนื้อผลไม่มีกลิ่นหอม (กลิ่นคาวนิด ๆ) และมีน้ำยางมากคล้ายสตาร์แอปเปิ้ล สำหรับสวน BerryCU เลือกปลูกสายพันธุ์จากไต้หวัน เนื่องจากข้อดีดังกล่าว
ปลูก เอบิว อย่างไรให้ได้กินผล
เอบิวเป็นไม้ผลที่ปลูกง่าย โตเร็ว ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดดตลอดวัน ทนร้อนได้ดี ชอบน้ำแต่ไม่ทนน้ำท่วมขัง สามารถปลูกและให้ผลได้ในกระถางขนาด 18 นิ้วขึ้นไป
การปลูกลงแปลง ควรเว้นระยะปลูกอย่างน้อย 4 x 4 เมตร ในปีแรก ๆ ควรใช้ซาแรนช่วยพรางแสงและนำซาแรนออกในช่วงที่ต้นตั้งตัวได้แล้ว และหมั่นตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง เพื่อระบายอากาศภายในทรงพุ่ม ป้องกันแมลงศัตรูพืชมากัดกินใบ

เทคนิคให้น้ำและใส่ปุ๋ย
“สวน BerryCU ให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ส่วนการให้ปุ๋ยเหมือนไม้ผลทั่วไป ปีแรกเน้นให้ปุ๋ยบำรุงต้น เช่น ปุ๋ยคอกมูลวัว ต้นละประมาณ 10 ลิตร (10 กิโลกรัม) โรยรอบทรงพุ่มเดือนละครั้ง และให้เพิ่มขึ้นในปีต่อไป (ตามขนาดต้น)
ชวลิต วิกุลชัยกิจ/รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *